3. ตรวจเช็คอุปกรณ์

การตรวจเช็คอุปกรณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะอะไหล่ วัสดุต่างๆ มีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา และการดูแลใช้งานของเจ้าของไม่เหมือนกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้ของที่มีตำหนิน้อยที่สุด

แบ่งเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้

1. เช็คตัวถัง ( Shell )
– ขอบตรงตัวกลอง ( Bearing Edge ) ใช้นิ้วลูบว่ามีรอยหรือไม่ ถ้า Bearing Edge เป็นยุบลงไปจะทำให้คุณภาพเสียงแย่ลง

– เช็คขอบกลอง ( Hoop ) ควรที่จะไม่เบี้ยว วิธีเช็ค Hoop นำกลองวางที่เรียบแล้วปิดไฟ ใช้มือถือส่องลงไปในตัวกลอง ถ้าแสงเล็ดลอดออกมาเยอะแสดงว่า Hoop เบี้ยว

2. เช็คสภาพตัวน็อต
– การที่เราซื้อกลองมือสองมันคือเรื่องปกติที่โลหะจะขึ้นสนิม เพราะมันทำให้คุณเปลี่ยนหนังกลองและจูนกลองได้ยากขึ้น จึงควรเช็คให้สนิมมีน้อยที่สุด

– ตัวน็อตต้องสภาพดีไม่เกิดอาการเกลียวหวาน ทั้งตัวผู้และตัวเมีย

3. เช็คแส้
– ระบบปลดแส้สแนร์ ต้องใช้งานได้ปกติราบรื่น วิธีเช็คก็คือ ปรับแส้ ขี้น-ลง

4. เช็คจำนวนตัวน็อต และ หลัก
– มันอยู่ครบไหม ถ้าไม่ครบมันจะทำให้คุณเสียเวลา และเงินในการหาซื้ออะไหล่ โดยอะไหล่บางชิ้นก็หาไม่ได้อีกแล้ว

5. หนังกลอง
– เป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวลถ้าเจอในสภาพที่เก่า มันสามารถซื้อเปลี่ยนได้เหมือนเปลี่ยนสายกีตาร์นั้นเอง